|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เสริมอาหารโปรไบโอติคเอ็นไซม์ |
|
สมุนไพรบำรุงและดูแลสุขภาพ |
อะโรม่าบำบัด |
|
|
|
|
 |
สุขภาพซ่อมได้
|
|
|
พกไว้ติดตัว......
ขวดนี้ช่วยคุณได้
|
|
|
ขอบคุณที่สั่งซื้อสินค้าและสนับสนุนสินค้าไทย :: สินค้าทั้งหมดภายในร้านนี้เป็นสินค้าที่ผลิตภายในประเทศไทย และมีบางผลิตภัณฑ์ของเราเป็นสินค้า ที่ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศคือ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้แก่ เอ็ม-ซายน์ พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติคเอนไซม์ คุณจึงมั่นใจใน คุณภาพดีเยี่ยมเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี ปลอดภัยด้วยการผลิตทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เอ็ม-ซายน์ พลัส คือ ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำบัด ฟื้นฟู และเสริมสร้างความแข็งแรง ของสุขภาพด้วยการใช้เอนไซม์ในการบำบัดตามหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง
|
|
|
|
|
|
ถาม-ตอบ เอนไซม์ |
|
เอ็นไซม์ คือ พลังชีวิต
- Q : เอ็นไซม์ย่อยอาหารมีกี่ชนิด
A : น้ำย่อยอาหาร (Digestive Juice) ที่หลั่งออกมาเพื่อย่อยอาหารในระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal Tract) มีปริมาณมากกว่า 2 แกลลอนต่อวัน จะมีเอ็นไซม์ย่อยอาหาร (Digestive Enzyme) ที่สำคัญรวม 3 ชนิดด้วยกัน คือ...
กลุ่มย่อยโปรตีน (Protease) หรือกลุ่มโปรติเอสเอ็นไซม์ เช่น เอนไซม์ เปปซิน (Pepsin) เอ็นไซม์ ทริป ซิน (Trypsin) ทำหน้าที่ย่อย อาหารประเภทเนื้อสัตว์
กลุ่มย่อยแป้งและน้ำตาล (Amylase) หรือกลุ่มอะไมเลสเอ็นไซม์ ทำหน้าที่ย่อยอาหารประเภท แป้ง ข้าว ถั่ว งา
กลุ่มย่อยไขมัน (Lipase) หรือกลุ่มไลเปสเอ็นไซม์ ทำหน้าที่ย่อยไขมัน เช่น น้ำมัน เนย
Q : เอ็นไซม์มีประโยชน์อย่างไรกับชีวิตเรา
A : มีประโยชน์ต่อชีวิตเรามากที่สุดถือได้ว่าถ้าขาดหรือไม่มีเอนไซม์ชีวิตเราก็อยู่ไม่ได้ร่างกายจะดำรงอยู่หรือมีชีวิตอยู่ได้นั้นจะต้องมีพลังงาน เพราะ
เซลล์ต้องใช้พลังงานเพื่อการซ่อมแซม ฟื้นฟู และบำรุงเซลล์ และพลังงานก็ต้องได้มาจากสารอาหาร เพราะสารอาหารเป็นเคมีชีวภาพที่มีโมเลกุล
ขนาดเล็ก และสารอาหารก็ได้มาจากอาหารที่เรากินเข้าไป ดังนั้นอาหารที่เรากินจึงสำคัญมากต่อชีวิต ถ้าเรากินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เราก็แข็ง
แรงกระบวนการตั้งแต่อาหารถูกย่อยให้เป็นสารอาหารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและย่อยสารอาหารให้เป็นพลังงานนั้น ทั้งหมดทุกขั้นตอนของกระบวน
การต้องใช้เอ็นไซม์ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าฮอร์โมน วิตามิน เกลือแร่ โปรตีน และสารอาหารอื่นๆจะสำคัญต่อชีวิตและสุขภาพ แต่ก็โดย เอนไซม์เท่านั้น
ที่ทำให้สารอาหารต่างๆดังกล่าว ทำงานตามคุณสมบัติของมันได้ ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ ทุกอย่างทำปฏิกิริยาเคมีไม่ได้เลยจนมีผู้กล่าวว่า “เอ็นไซม์ คือ
พลังชีวิต (Life Force) เพราะถ้าระดับ เอ็นไซม์ในร่างกายมีอัตราลดต่ำลงจนถึงระดับหนึ่งทำให้ทุกระบบทำงานไม่ได้ชีวิตจะหยุดทันที
Q : บางครั้งกินอาหารไปหลายชั่งโมงแล้วรู้สึกแน่นท้องเหมือนอาหารไม่ย่อยเป็นเพราะอะไร?
A : อาหารไม่ย่อยเป็นเพราะ ตับอ่อนผลิตเอ็นไซม์ย่อยอาหารลดลงไม่เพียงพอกับอาหารที่ต้องการ ย่อยในมื้อนั้นๆ และอาหารที่กินเป็นอาหารที่ขาด
เอนไซม์ธรรมชาติในอาหารคือ อาหารปรุงสุกแล้ว การที่เอ็นไซม์ย่อยอาหารขาดแคลนเป็นเพราะ พฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ในปัจจุบันรวม
กับ สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษและมีมากด้วยอณุมูลอิสระ เรากินอาหารที่ปรุงสุกเป็นเหตุให้เอนไซม์ในอาหารเสียสภาพหรือตายลง เมื่อเรากินอาหารที่ไม่
มีเอ็นไซม์เลย จึงเป็นสาเหตุให้ ร่างกายต้องผลิตเอนไซม์เพื่อย่อยอาหารจำนวนมากต่อมื้ออาหารหนึ่งมื้อเกินความจำเป็น และติดต่อกันยาวนาน ทำให้ตับอ่อน ต้องผลิตเอนไซม์กลุ่มย่อยอาหาร มากเกินความจำเป็น จึงทำให้ตับอ่อนเสื่อมสภาพเร็วและจากผลการวิจัยพบว่าการใช้ชีวิตของ
มนุษย์ในยุคปัจจัยเป็นสาเหตุทำตับอ่อนเสื่อมเร็ว และลดประสิทธิภาพ ในการผลิตเอ็นไซม์เพื่อย่อยอาหารลง คือประมาณหลังอายุ 25 ปีร่างกาย
เราจะผลิตเอ็นไซม์ในการ ย่อยอาหารลดลง และลดลงตามพฤติกรรมการบริโภคอาหาร การใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ
Q : เอ็นไซม์ในร่างกายเราจะคงอยู่กับเราและไม่มีวันหมดไปตลอดชีวิตใช่ไหม?
A : ไม่ใช่ เอ็นไซม์กลุ่มย่อยอาหาร (Digestive Enzyme) เมื่อใช้ไปแล้วหมดไปกับการใช้งานตับอ่อนต้องผลิตทุกครั้งที่เรากินอาหาร ส่วนเอ็นไซม์ กลุ่มเผาผลาญพลังงานหรือเมตาบอลิคเอ็นไซม์ (Metabolic Enzyme) ก็มีอายุเช่นกันและเมื่อใช้งานแล้วยังหมุนเวียนอยู่กับเซลล์ในอวัยวะนั้นๆ
ได้ระยะหนึ่งจนเสื่อมสภาพ และเมตาบอลิคเอ็นไซม์จะลดลงจากเซลล์ต่างๆสาเหตุมาจากตับอ่อนเสื่อมสภาพหรือลดประสิทธิภาพในการผลิตเอ็นไซม์ ย่อยอาหารเมตาบอลิคเอ็นไซม์ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าการย่อยอาหารจะต้อง ถูกดึงมาใช้เพื่อย่อยอาหารให้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดความเสื่อม ของร่างกายในอวัยวะต่างๆ และเกิด โรคความเสื่อมตามมาดูง่ายๆได้จากภายนอกคือ ผิวพรรณ ความสดใส ความตึงผิวและยืดหยุ่น
(พิสูจน์ความเสื่อมของผิวโดยกดที่ผิวหนังบริเวณหลังมือที่อยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้สักประมาณ 5 วินาที แล้วจับเวลาดูว่าผิวหนังของคุณกลับคืนสภาพ ปกติในเวลาเท่าใดหากใช้เวลาเพียง 5 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น หมายถึงอายุทางชีวภาพของผิวหนังของคุณ คือ น้อยกว่า 50ปี แต่หากว่ากลับคืนสภาพใน
ช่วย 10-15 วินาที แสดงอายุในช่วง 60-69ปี และหากใช้เวลาตั้งแต่ 15 วินาทีขึ้นไปบอกได้ ว่าอายุทางชีวภาพของผิวหนังของ ท่าน มีอายุถึง 70 ปีขึ้น
ไป นี่เป็นสิ่งที่สะท้อน ถึงความเหี่ยวย่น ของผิวหนังที่เราได้รับจากการที่เนื้อเยื่อใต้ ชั้นผิวหนังเสื่อมลงไป)
มีคำกล่าวไว้ว่า “การใช้เอนไซม์เปรียบเหมือนการใช้เงินฝากในธนาคาร” ดังที่กล่าวแล้วว่าเอ็นไซม์ที่สำคัญต่อชีวิตที่เราต้องดูแลมากที่สุด ก็คือ เมตาบอลิคเอ็นไซม์ที่มีหน้าที่ไว้เพื่อดูแล ซ่อมแซม ฟื้นฟู เซลล์ในทุกอวัยวะของร่างกายให้ดำรงอยู่ได้นานและแข็งแรง เมตาบอลิคเอ็นไซม์จึงเปรียบได้
เท่ากับเงินเก็บอันมีค่ายิ่งของเราถ้าถูกนำไปใช้เพื่อย่อยอาหารนั้นถือว่าสูญเสียทรัพยากรที่ดีและสำคัญต่อชีวิต เหมือนท่านถอนเงินฝากส่วนตัวของท่านออก
มาจากธนาคารเพื่อนำมาใช้ตลอดเวลาโดยไม่ประหยัด ไม่นานเงินที่ฝากธนาคารไว้ก็ต้องหมดลง แต่ถ้าท่านหาเงินได้จากแหล่งอื่นมาใช้แทนเงินฝากใน
ธนาคาร ท่านก็ยังพอมีเงินที่ฝากอยู่ใช้นานขึ้นเอาไว้เมื่อแก่ตัวลงในทำนองเดียวกัน ถ้าท่านมีเอ็นไซม์ฝากอยู่ใน ธนาคารเอนไซม์ และท่านใช้เอนไซม์อย่างฟุ่มเฟือยด้วยความประมาททะนงตนว่าแข็งแรงไม่มีวันเป็นอะไร ไม่ช้าไม่นานเอนไซม์ที่ฝากอยู่ในธนาคารก็ต้องร่อยหรอลงตั้งแต่ยังเป็น หนุ่มสาว ชีวิตที่ยากลำบากขึ้นเมื่อแก่ตัว แต่ถ้าท่านใช้ประหยัดหาเอ็นไซม์จากแหล่งภายนอกมาใช้แทน เช่น กินเอนไซม์เสริมและกินอาหารสดเพื่อให้ได้เอนไซม์จากอาหาร ท่านก็จะมีเอนไซม์เก็บไว้ในธนาคารพอใช้เมื่อตอนท่านแก่ตัวลงความชราและโรคความเสื่อมทั้งหลายก็ไม่มากล้ำกรายท่านอีกนาน
Q : แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเอนไซม์ในร่างกายของเราลดลง
|
|
อ่านเรื่องเอ็นไซต์ต่อนะค่ะ >> | 1 | 2 | 3 | 4 |
<กลับหน้าแรก> |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมนูหลัก
|
ข่าว | กิจกรรม |บทความต่างๆ
|
ข้อมูลสาธารณะ
|
ลิงค์แนะนำเสริมความรู้
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|