|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เสริมอาหารโปรไบโอติคเอ็นไซม์ |
เสริมบำบัดและฟื้นฟู |
สมุนไพรบำรุงและดูแลสุขภาพ |
อะโรม่าบำบัด |
|
|
|
|
 |
สุขภาพซ่อมได้
|
|
|
พกไว้ติดตัว......
ขวดนี้ช่วยคุณได้
|
|
|
ขอบคุณที่สั่งซื้อสินค้าและสนับสนุนสินค้าไทย :: สินค้าทั้งหมดภายในร้านนี้เป็นสินค้าที่ผลิตภายในประเทศไทย และมีบางผลิตภัณฑ์ของเราเป็นสินค้า ที่ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศคือ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้แก่ เอ็ม-ซายน์ พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติคเอนไซม์ คุณจึงมั่นใจใน คุณภาพดีเยี่ยมเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี ปลอดภัยด้วยการผลิตทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เอ็ม-ซายน์ พลัส คือ ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำบัด ฟื้นฟู และเสริมสร้างความแข็งแรง ของสุขภาพด้วยการใช้เอนไซม์ในการบำบัดตามหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง
|
|
|
|
|
|
เหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องกินเอ็นไซม์เสริม
|
|
|
เหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องกินเอ็นไซม์สริม
- ร่างกายผลิตเอ็นไซม์ได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น
- การหุงต้ม การเตรียมอาหาร และการเก็บอาหารเป็นต้นเหตุที่ทำลายเอนไซม์ที่มีอยู่ในอาหาร
- มีตัวห้ามการทำงานของเอ็นไซม์อยู่ในอาหารตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก (Natural Enzyme Inhibitor)
- การทำงานหนัก การออกกำลังกายมากเกินไปทำให้สูญเสียเอนไซม์จนถึงระดับขาดแคลนได้
- ปัจจุบันใช้สารเคมีกันอย่างฟุ่มเฟือยทำให้เอ็นไซม์ในอาหารและเอนไซม์ในร่างกายมนุษย์ลดลง
- ร่างกายผลิตเอนไซม์น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น
มีการทดลองที่โรงพยาบาลไมเคิลรีส (Michael Reese) ในรัชชิคาโก สหรัฐอเมริกา ที่แสดงให้เห็นว่าเอนไซม์ อไมเลส ในน้ำลาย
ของเราเมื่อวัยหนุ่มสาว (21-31 ปี) มีมากกว่าคนชรา (61-100 ปี) ถึง 30 เท่า ซึ่งกลายมาเป็นคำอธิบายที่ว่า เมื่ออายุยังน้อยเรา
สามารถกินอาหารต่างๆ ได้โดยไม่มีปัญหา เรื่องการย่อย แต่อาหารอย่างเดียวกันนี้ เมื่อแก่ตัวลงกลับกินไม่ได้ เพราะเอ็นไซม์ย่อย
อาหารเจือจางลง และถ้ามีปัญหาเรื่องฟันที่เคี้ยวอาหารไม่ละเอียดยิ่งทำให้อาการผิดปกติต่างๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้นมีการศึกษาของ
บาร์โตส และโกรซ (Bartos and Groh) ซึ่งทำการวิจัย ในคนโดยใช้ยากระตุ่นน้ำย่อยจากตับอ่อนแล้วมาหาตัวเอ็นไซม์ อไมเลส
พบทำนองเดียวกันว่าคนแจะมีเอนไซม์ น้อยกว่าคนหนุ่มสาวมาก ซึ่งนักวิจัยทั้งสองได้สรุปว่า คนแก่จะมีความอ่อนล้าของเซลล์
ที่ผลิตเอ็นไซม์ในตับอ่อน ยังมีผลของการศึกษาอื่นๆ ที่ชี้ให้เห็นอีกว่า เมื่อ ร่างกายแก่ตัวลงเมตาบอลิคเอ็นไซม์ในเซลล์ต่างๆก็จะ
พลอยลดต่ำลงตามไปด้วย และถ้าเอนไซม์ลดต่ำเร็วด้วยเหตุใดก็ตามความชราก็จะปรากฏโฉมให้เห็นเร็วขึ้นเท่านั้น ตับอ่อนของ
มนุษย์มีน้ำหนักเพียง 3 ออนซ์ แต่ต้องทำงานหนักตลอดชีวิต ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือย่อมเสื่อมโทรมก่อนวัยอันควร มีผู้เปรียบ
เทียบไว้ว่าตับอ่อนที่ผลิตเอ็นไซม์ก็เหมือนกับแม่พิมพ์ (Mold) ที่ใช้ปั๊ม วัตถุดิบให้เป็นสินค้ารูปต่างๆ เช่น ถ้วยแก้วแม่พิมพ์
อุตสาหกรรมก็มีอายุการใช้งาน แม้นแต่แม่พิมพ์ธนบัตรเมื่อใช้นานๆการปั๊มหรือพิมพ์ผลิตออกมาคุณภาพจะลดลงจนทางธุรกิจต้อง
จำหน่ายหรือเลิกใช้แม่พิมพ์ ในฐานะหมดอายุตับอ่อนก็เช่นกัน ถ้าต้องปั๊มเอนไซม์ออกมามากๆก็ต้องหมดอายุเช่นกัน เราจึงควรให้
ตับอ่อนของเราหมดอายุช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อประโยชน์และสุขภาพของตนเอง
- การหุงต้ม การเตรียมอาหาร และการเก็บอาหารเป็นต้นเหตุที่ทำลายเอนไซม์ที่มีอยู่ในอาหาร
เอ็นไซม์จะถูกทำลายเพราะการหุงต้ม ความร้อนสูงเกิน 118 องศาฟาเรนไฮต์ (40 องศาเซ็นติเกรด) สามารถทำลายเอนไซม์
จากอาหาร (Food Enzyme) ได้หมด ทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปไม่มีเอ็นไซม์จำเป็นต้องใช้เอ็นไซม์ย่อยอาหารที่ร่างกายต้องผลิต
ออกมาเองเป็นจำนวนมาก ทำให้สิ้นเปลืองนอกจากจำนวนเอนไซม์ที่ควรจะมีอยู่ในอาหารธรรมชาติก็ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเนื่องจากใน
ดินไม่มีแร่ธาตุเหมือนอย่างในอดีต การใช้รังสีเพื่อถนอมอาหาร การใส่สารกันเสีย การบรรจุกระป๋อง การใช้แก็สบ่มผลไม้ ฯลฯ เหล่านี้
ล้วนทำให้เอ็นไซม์ในอาหารถูกทำลายไปทั้งสิ้น เราจึงจำเป็นต้องกินอาหารเสริมและเอนไซม์เสริมเพื่อชดเชยและช่วยไม่ให้ร่างกาย
ผลิตเอ็นไซม์เพิ่มออกมา
- ทารกกินน้ำนมแม่ได้เอนไซม์จากอาหารสมบูรณ์
นมผง นมสดที่ใช้ความร้อนทำลายเชื้อโรค (พาสเจอไรซ์ Pasteurize Milk) นมข้นหวาน ล้วนเป็นอาหาร (ของเด็กทารก) ที่ไม่มี
เอ็นไซม์เหลืออยู่ เด็กที่กินนมดังกล่าวจึงจำเป็นต้องใช้เอ็นไซม์หมดเปลื้องตั้งแต่ลืมตาดูโลก นมที่ไม่มีเอนไซม์นี้เป็นต้นเหตุทำ
ให้มีอาหารที่ย่อย ไม่หมดไปหมักหมมในลำไส้ใหญ่บูดเน่าและเสีย เชื้อจุลินทรีย์เข้าไปเจริญเติบโตเกิดสารพิษซึมเข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้เด็กป่วยง่าย มีการเก็บข้อมูลเพื่อเปลี่ยนเทียบอัตราการตายของเด็กทารกที่กินนม พบว่าเด็กที่กินนมขวดมีอันตรายสูงกว่าเด็ก
ที่กินน้ำนมแม่ถึง 56 เท่า
ดร.แอนเดอ แฮกเกนสัน (Dr.Andre Hakanson) จากมหาวิทยาลัยลุนด์ สวีเดน ค้นพบว่าถ้าเขาเติมน้ำนมแม่ลงไปในเซลล์มะเร็งที่
เขาเพาะเลี้ยงไว้เซลล์มะเร็งที่เจริญเติบโตอยู่จะตายหมด และเมื่อเขาศึกษาต่อไปอีกพบว่า น้ำนมแม่จะฆ่าเฉพาะเซลล์ที่เป็นมะเร็ง
โดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้นเซลล์ดีๆจะไม่ถูกทำลายเลย การวิจัยของ ดร.แฮกเกนสัน นี้ยังบอกให้ได้ทราบอีกอย่างหนึ่งว่า การกิน
อาหารสดนี้ เป็นประโยชน์เพราะมีเอ็นไซม์ ถ้ากินอาหารสดไม่ได้หรือไม่พอก็ควรกินเอ็นไซม์เสริมเข้าไปช่วย
|
|
|
อ่านเรื่องเอนไซม์ต่อนะคะ>> 1 | 2 | 3
<กลับหน้าหลัก> |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมนูหลัก
|
ข่าว | กิจกรรม |บทความต่างๆ
|
ข้อมูลสาธารณะ
|
ลิงค์แนะนำเสริมความรู้
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|